ญี่ปุ่นจะผ่อนคลายการควบคุมชายแดนจากโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม โดยจะเพิ่มขีดจำกัดรายวันสำหรับผู้เข้าต่างประเทศเป็น 7,000 คนจาก 5,000 คนในปัจจุบัน นายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะ กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี
คิชิดะเปิดเผยแผนงานใหม่ในงานแถลงข่าวเพื่อให้ความสำคัญกับนักเรียนต่างชาติเป็นอันดับแรก เนื่องจากความต้องการเดินทางเพื่อธุรกิจไม่สูง
การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่การผ่อนปรนการจำกัดการเข้าประเทศอย่างค่อยเป็นค่อยไปนั้นเป็นเป้าหมายของการวิพากษ์วิจารณ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศว่าเข้มงวดเกินไป และความต้องการให้ญี่ปุ่นอนุญาตให้ส่งผลงานเข้าประเทศมากขึ้นก็มีระดับสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากนักศึกษาต่างชาติก่อนการเริ่มต้นเดือนเมษายนของเอเชีย ปีการศึกษาของประเทศ
“เราจะช่วยให้นักเรียนเดินทางมาญี่ปุ่นโดยให้ที่นั่งว่าง (ใช้) กับพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันธรรมดาที่มีนักเดินทางเพื่อติดต่อธุรกิจไม่มาก” คิชิดะกล่าว พร้อมเรียกนักเรียนเหล่านี้ว่าเป็น "สมบัติ" สำหรับประเทศ
“นักเรียนต่างชาติหลายคนกังวลว่าจะเข้าญี่ปุ่นได้ก่อนเปิดเทอมในเดือนเมษายนหรือไม่” เขากล่าว
นศ.ต่างชาติราว 150,000 คน ยังคงรอเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากการจำกัดการเดินทางของ COVID-19 ที่กำหนดไว้ในช่วงสองปีที่ผ่านมา
ปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ญี่ปุ่นบังคับใช้คำสั่งห้ามชาวต่างชาติเข้าประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อโลกต้องรับมือกับการแพร่กระจายของเชื้อ COVID-19 สายพันธุ์ Omicron ที่สามารถแพร่เชื้อได้สูง
ปัจจุบัน ประชาชนมากถึง 5,000 คน รวมถึงชาวญี่ปุ่นในต่างประเทศ ได้รับอนุญาตให้เข้าญี่ปุ่นทุกวัน จากการเพิ่มขึ้นจากขีดจำกัดก่อนหน้าที่ 3,500 ที่มีผลในวันอังคาร ยังไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา